ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล นัดนี้ ถือว่าเป็นศึกใหญ่ แต่ทีมเจ้าบ้านก็ถือว่าได้เปรียบจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาและอันดับในตารางที่สูงกว่า ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจเสียอันดับหนึ่งในตารางเนื่องจากเชลซี ลงแข่งก่อนในวันเสาร์ และหากเชลซี เก็บแต้มได้ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูง
ทั้งแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ต่างลงเล่นมาแล้ว 8 นัดและมีแต้มต่างกันอยู่ 8 แต้ม หากแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะได้ในนัดนี้จะทำให้แต้มนำลิเวอร์พูล ห่าง 11 แต้ม และมีสิทธิ์ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงต่อไป
การพบกันในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะลิเวอร์พูล 14 ครั้ง และแพ้ 7 ครั้ง จากการพบกันฤดูกาลที่แล้วมีประตูเกิดขึ้นเพียงประตูเดียว นั่นคือลูกโหม่งของริโอ เฟอร์ดินานด์ ในนาทีสุดท้ายของเกม ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดได้ 3 แต้มจากการเล่นในบ้าน
ลิเวอร์พูล พวกเขาเล่นในน่าประหลาดใจมากในฤดูกาลนี้ การเล่นในบ้านพวกเขาเสียคะแนนไปเพียง 2 คะแนน แต่การเล่นนอกบ้านพวกเขากลับยังไม่เคยชนะเลย นัดแรกพวกเขาเสมอกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1 – 1 ซึ่งเป็นแต้มเดียวและประตูเดียวที่ทำได้ในการเล่นนอกบ้านฤดูกาลนี้ ซึ่งประตูที่ได้มาจากการยิงจุดโทษของร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ทั้งลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็คว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 33 ครั้ง แต่ใน 33 ครั้งนี้แมนฯ ยูไนเต็ดได้แชมป์พรีเมียร์ชิพ 8 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูล ยังไม่เคยคว้าแชมป์นี้เลย
ทั้งสองทีมเพิ่งคว้าชัยชนะมาในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดกลางสัปดาห์ เมื่อลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะมาจากบอร์กโดซ์ 0 – 1 และแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เอาชนะโคเพนฮาเก้น 3 – 0 ในโรงละครแห่งความฝัน
ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ต้องการชัยชนะนัดที่ 50 ในลีกเหนือแมนฯ ยูไนเต็ด และล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 1 – 0 ในศึกเอฟเอ คัพรอบที่ 5 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยลูกทำประตูของปีเตอร์ เคร้าซ์
ฟอร์มของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 มี 19 คะแนน
ชนะทั้ง 4 นัดหลังสุดในทุกถ้วย
ในพรีเมียร์ชิพ 22 นัดหลังสุดชนะ 17 นัด
ทำประตูไม่ได้เพียง 1 นัดในฤดูกาลนี้ คือ นัดที่พ่ายต่ออาร์เซน่อล 0 – 1 ในวันที่ 17 กันยายน)
หากเก็บชัยชนะได้อีก 1 นัดก็จะเป็นชัยชนะนัดที่ 1,000 ของสโมสรในลีก
มีผลต่างประตูได้-เสีย ที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพ คือ +12
ทำประตูมากที่สุดในลีกคือ 17 ประตู เฉลี่ยแล้วยิงประตูทุกๆ 42 นาที
สามารถเอาชนะได้ทุกนัดที่ยิงประตูขึ้นนำก่อนได้ในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล อยู่อันดับที่ 11 มี 11 คะแนน
เล่นในพรีเมียร์ชิพ 3 นัดหลังสุด ชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1
ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้นอกบ้านมากว่า 5 เดือนแล้ว โดยนัดล่าสุดที่ชนะนอกบ้านเกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม เป็นชัยชนะเหนือปอร์ทสมัธ 1 – 3
เล่นนอกบ้าน 3 นัดหลังสุดแพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน, เชลซี และโบลตัน โดยไม่สามารถทำประตูได้ และรวมแล้วยิงประตูนอกบ้านไม่ได้นาน 290 นาทีแล้ว
ใน 6 นัดหลังสุดที่เล่นนอกบ้านทำประตูได้เพียง 3 นัด
สามารถเอาชนะได้ทุกนัดที่ยิงประตูขึ้นนำก่อนได้ในฤดูกาลนี้
ข้อมูลนักเตะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในนัดนี้จะเป็นนัดที่ พอล สโคลส์ ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นนัดที่ 500 และ เวย์น รูนี่ย์ ก็จะลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นนัดที่ 100
หาก คีแรน ริชาร์ดสัน และเนมานย่า วิดิช ได้ลงเล่น ก็จะเป็นการลงเล่นในวันเกิดครบรอบ 22 และ 25 ปีของพวกเขา
หาก เวส บราวน์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง จะเป็นการลงเล่นนัด 200 ของเขาให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด
หลุยส์ ซาฮา เป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในทีม คือ 6 ประตู
ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นนักเตะคนเดียวในทีมที่ได้ลงสนามทุกนาทีในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล
ในนัดนี้จะเป็นนัดที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงเล่นให้ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 350
หากยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง จะเป็นการลงเล่นนัด 150 ของเขาให้กับลิเวอร์พูล
หากทำได้ 3 ประตูเคร็ก เบลลามี่ ก็จะยิงประตูให้พรีเมียร์ชิพครบ 50 (จากการเล่นให้กับโคเวนทรี, นิวคาสเซิล, แบล็คเบิร์น และ ลิเวอร์พูล)
โฆเซ่ เรน่า เป็นนักเตะคนเดียวในทีมที่ได้ลงสนามทุกนาทีในฤดูกาลนี้
ผลการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 ลิเวอร์พูล
วันที่ 22 มกราคม 2006 – ผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลี่ย์
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : เฟอร์ดินานด์ นาทีที่ 90
สถิติการพบกันทั้งหมด
ทั้งเหย้าและเยือน
ในลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 54 , ลิเวอร์พูล ชนะ 49, เสมอ 43
ในพรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 14 , ลิเวอร์พูล ชนะ 7, เสมอ 7
พบกันที่แมนฯ ยูไนเต็ด
ในลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 34 , ลิเวอร์พูล ชนะ 14, เสมอ 25
ในพรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 7 , ลิเวอร์พูล ชนะ 3, เสมอ 4
Opal