ลิเวอร์พูล 2 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รีพอร์ต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจำเป็นจะต้องกลับมาให้ได้จากเกมเลกแรก หากหวังผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูโรปา ลีก หลังจากบุกพ่ายต่อลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ 2 – 0

เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำในช่วงกลางครึ่งแรก จากลูกจุดโทษของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และแม้ว่า ดาบิด เด เคอา จะโชว์เซฟสวยๆ เอาไว้ได้หลายครั้ง แต่ทีมหงส์แดงก็มาหนีห่างออกไปจนได้ในขณะที่เกมเหลือเวลาอีก 17 นาที จากการยิงจ่อๆ ของ โรแบร์โต้ เฟร์มิโน่

ก่อนเกม หลุยส์ ฟาน กัล เลือกปรับทัพ 3 ตำแหน่งจากเกมบุกแพ้เวสต์ บรอม อัลเบี้ยน เมื่อสุดสัปดาห์ โดยเป็น กิเยร์โม่ บาเรล่า, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน และ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่ได้ลงเล่นแทน มัตเตโอ ดาร์เมียน, ไมเคิล คาร์ริค และ อันเดร์ เอร์เรร่า

แฟนบอลของทั้ง 2 ทีมต่างตะโกนต้อนรับนักเตะของพวกเขาอย่างสุดเสียงเมื่อทุกคนเดินออกมาจากอุโมงค์ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่ได้หวาดกลัวบรรยากาศในสนาม และก็เปิดเกมบุกตั้งแต่เริ่มเขี่ย น่าเสียดายที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่สามารถเข้าทำจากลูกครอสของ เมมฟิส เดปาย ได้

หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็แทบหาโอกาสเข้าทำกันไม่ได้ จนกระทั่งโอกาสต่อมากลายเป็นประตูแรกของเกม นาทีที่ 19 นาธาเนียล ไคลน์ เรียกจุดโทษให้กับเจ้าถิ่นได้ หลังจากถูกปะทะล้มลงโดยเมมฟิส แม้ว่าเด เคอาจะพุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ แต่สุดท้ายสเตอร์ริดจ์ก็ส่งบอลเข้าประตูไปได้สำเร็จจากลูกจุดโทษ

ทีมเยือนเกือบถูกยิงเป็น 2 – 0 ในอีกไม่กี่นาทีถัดมา แต่ผู้รักษาประตูก็ช่วยเอาไว้ได้หวุดหวิด สเตอร์ริดจ์มีส่วนร่วมอีกครั้ง คราวนี้เขาครอสไปที่เสาไกลให้กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่เด เคอาก็ปัดบอลออกมาได้ในจังหวะที่น่าจะเป็นประตูไปแล้ว

ผู้รักษาประตูชาวสเปนต้องเหนื่อยอีกครั้งหลังเกมผ่านครึ่งชั่วโมงมาได้ไม่นาน ขณะที่ลิเวอร์พูลกำลังมองหาประตูที่ 2 คราวนี้เจ้าถิ่นอาศัยโชคเล็กน้อยจากการลื่นของสมอลลิ่งที่พยายามโขกสกัดลูกครอส ทำให้บอลมาเข้าทางสเตอร์ริดจ์ซึ่งยิงทันที แต่เด เคอาก็บล็อคจังหวะของศูนย์หน้ารายนี้เอาไว้ได้

ขณะเดียวกัน ลูกทีมของฟาน กัลก็ไม่สามารถเปิดเกมบุกได้อย่างถนัด แต่ก็ยังหาโอกาสยิงตรงกรอบได้ 2 ครั้ง ต่อด้วยลูกฟรีคิกระยะไกลของเมมฟิสที่พุ่งส่ายออกหลังไป ก่อนที่ มาร์กอส โรโฮ จะได้ซัดข้ามคาน

เป็นอีกครั้งที่เด เคอาต้องโชว์ลูกเซฟ ในจังหวะที่ลิเวอร์พูลขึ้นเกมมาทางขวาโดย เอ็มเร่ ชาน มิดฟิลด์รายนี้ครอสบอลมาให้ อดัม ลัลลาน่า เขายิงวอลเล่ย์จ่อๆ แต่นายทวารปีศาจแดงก็เซฟเอาไว้ได้ ทำให้สกอร์ยังไม่เสียเปรียบมากนักก่อนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นด้วยการปรับแผนการเล่น ไมเคิล คาร์ริค ถูกส่งลงสนาม ซึ่งทำให้ทีมของฟาน กัลครองเกมได้มากขึ้น ชไนเดอร์ลินลองยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษในนาทีที่ 47 แต่ความพยายามของเขาก็ถูกเซฟเอาไว้ได้ง่ายๆ โดย ซิมง มิโญเล่ต์

ลิเวอร์พูลยังเตือนทีมของฟาน กัลว่าแนวรุกของพวกเขาอันตรายแค่ไหน โดยสร้างสรรค์โอกาสตลอดเมื่อได้เปิดเกมบุก คราวนี้ลูกยิงวอลเล่ย์ของคูตินโญ่พุ่งสู่มุมประตู แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เด เคอาช่วยทีมเอาไว้ได้ โดยเขาปัดบอลข้ามคานออกไป

ขณะที่เกมเหลืออีก 25 นาที ไคลน์ได้พื้นที่บริเวณกรอบเขตโทษ เขาตัดสินใจยิงเข้าหาประตู แต่นักเตะหมายเลข 1 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็พิสูจน์ความเหนียวของตัวเองได้อีกครั้ง โดยเซฟพ้นจังหวะอันตรายออกไป

อย่างไรก็ตาม เด เคอาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยสำหรับประตูที่ 2 ของลิเวอร์พูล จังหวะนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 73 หลังจากที่คาร์ริคพยายามเตะสกัดพ้นอันตราย ลัลลาน่าก็แย่งบอลมาได้ก่อนจ่ายต่อให้เฟร์มิโน่ยิงจ่อๆ จากระยะ 6 หลาเข้าประตูไป

แม้ว่าจะถูกยิงทิ้งห่าง แต่หากได้ประตูทีมเยือนก็จะช่วยได้เยอะสำหรับเกมถัดไป และมันก็เกือบเกิดขึ้นจากจังหวะของเฟลไลนี่ในขณะที่เกมเหลืออีก 5 นาที บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ซึ่งลุกจากม้านั่งสำรองมาลงสนามเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคมครอสบอลมาที่เสาไกล แต่มิดฟิลด์ชาวเบลเยียมก็โขกถากเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

สัปดาห์ต่อไปจะเป็นเกมเลกสองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องพลิกสถานการณ์ในเกมยุโรปกลับมาให้ได้อีกครั้ง

สถิติ


Related Posts

Max