ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาต้อนรับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน ครั้งนี้ ต้องการเก็บชัยชนะครั้งที่ 300 ในการเล่นในพรีเมียร์ลีก ในสถิติของสโมสร โดยทั้ง 20 ทีมในลีกสูงสุดของอังกฤษขณะนี้ มีเพียง 8 ทีมเท่านั้นที่ได้เล่นในลีกนี้โดยตลอดและยังไม่เคยตกชั้นไปไหน พวกเขาถือว่าเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกคือ 946 ประตู อีกทั้งเป็นทีมที่แพ้และเสียประตูมากที่สุดตั้งแต่มีพรีเมียร์ชิพ (280 นัด เสียประตูทั้งหมด 693 ประตู) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่แพ้ใครในถิ่นของตัวเองในฤดูกาลนี้ และทีมนักบุญก็ยังไม่เคยเอาชนะทีมปีศาจแดง ได้ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เลยตั้งมีพรีเมียร์ลีก โดย 6 นัดหลังสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาชนะติดต่อกันทั้ง 6 นัด นั่นรวมไปถึงนัดล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะอาร์เซน่อล 1 – 0 ในฟุตบอลคาร์ลิ่งคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย ตลอด 23 นัดหลังสุดในทุกถ้วยพวกแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น หากพวกเขาชนะในนัดนี้ก็มีสิทธิที่จะขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง (หาก เอฟเวอร์ตัน แพ้ต่อโบลตัน จะทำให้พวกเขามีแต้มเท่ากันแต่ทีมปีศาจแดง มีประตูได้-เสียที่ดีกว่า)
การพบกับ เซาแธมป์ตัน ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฤดูกาล 2001/02 ก็เป็นนัดที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำแฮตทริกแรกให้กับทีมปีศาจแดง โดยช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 6 – 1 ในวันที่ 22 ธันวาคม 2001
เซาแธมป์ตัน ขณะนี้พวกเขากลับลงไปอยู่ในโซนตกชั้นอีกครั้ง เมื่ออยู่ในอันดับที่ 18 ของตารางมี 12 คะแนน มากกว่าทีมอันดับสุดท้ายเพียง 2 คะแนน การเดินทางไปเยือนโรงละครแห่งความฝันครั้งนี้สร้างความกดดันให้กับผู้จัดการทีมอย่าง สตีฟ วิคลี่ย์ ไม่น้อย เพราะเขารู้ว่าหากพ่ายแพ้นัดนี้อาจทำให้พวกเขาตกไปถึงอันดับสุดท้ายของตาราง แต่ในทางกลับกันหากพวกเขาชนะ ก็อาจทำให้พวกเขาขึ้นไปอีก 4 อันดับจนถึงอันดับที่ 14 ของตารางเลยก็เป็นได้ ในฤดูกาลนี้ของทีมนักบุญ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่แย่ที่สุดในรอบ 6 ปีในพรีเมียร์ชิพของพวกเขาเลยทีเดียว พวกเขาชนะในลีกเพียง 2 นัด เสมอ 6 และแพ้ถึง 7 นัด ตั้งแต่ วิคลี่ย์ เข้ามาเป็นหัวหน้าโค้ชชัยชนะเหนือปอร์ทสมัธ 2 – 1 ก็ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ดีที่สุดของเขา การเล่นนอกบ้านของพวกเขาเก็บได้เพียง 2 แต้มเท่านั้นคือ การบุกไปเสมอ ชาร์ลตัน และ อาร์เซนอล ในการไปเยือนทีมปีศาจแดงในฤดูกาลที่แล้วเป็นนัดที่ หลุยส์ ซาฮา สามารถยิงประตูได้นัดแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามด้วยประตูจาก พอล สโคลส์ แต่ เควิน ฟิลลิปส์ ก็สามารถตามตีเสมอให้กับทีมได้เป็น 2 – 2 จนกระทั่ง รุด ฟาน นิสเตลรอย ยิงประตูชัยให้กับทีมเอาชนะไปได้ 3 – 2
ผู้ตัดสิน
แบร์รี่ ไนท์ เขาเป็นผู้ตัดสินที่มีสถิติแจกใบเหลืองให้นักเตะน้อยที่สุด (0.83 ต่อเกม) ตลอด 6 นัดที่เขาตัดสินมานี้แจกไปเพียง 5 ใบเหลือง และฤดูกาลนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินในพรีเมียร์ชิพ
ฟอร์มของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 4 มี 27 คะแนน 6 นัดหลังสุดพวกเขาชนะทั้ง 6 นัด นั่นคือ ชนะ คริสตัล พาเลซ (2-0), นิวคาสเซิ่ล (1-3), ชาร์ลตัน (2-0), ลียง (2-1), เวสต์ บรอม (0-3) และ อาร์เซนอล (1-0) ไม่แพ้ทีมใดเลยในทุกถ้วย 8 นัดหลังสุด โดยเป็นชัยชนะ 7 นัดและเสมอ 1 นัด และการพ่ายแพ้นัดล่าสุดของพวกเขาคือพ่ายต่อ ปอร์ทสมัธ 2 – 0 ในวันที่ 30 ตุลาคม 2004 พรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้แพ้เพียง 2 นัด คือแพ้ต่อเชลซี และแพ้ต่อปอร์ทสมัธ ในการเล่นนอกบ้าน 15 นัดเสียไปแล้ว 10 ประตู เป็นทีมที่มีสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันนานที่สุดในลีกในฤดูกาลนี้คือ 9 นัด (เท่ากับ อาร์เซน่อล ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้) และพวกเขายังไม่แพ้ทีมใดในบ้าน ในการแข่งขันทุกถ้วยในฤดูกาลนี้
เซาแธมป์ตัน อยู่อันดับที่ 18 มี 12 คะแนน 6 นัดหลังสุดในทุกถ้วย ชนะเพียง 1 นัด และ 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพแพ้เพียง 1 นัด แต่ในฤดูกาลนี้พวกเขาชนะเพียง 2 นัด และแพ้ 7 นัด พวกเขาไม่สามารถยิงประตูคู่ต่อสู้ได้ 6 นัดในลีก และพวกเขาก็ไม่เสียประตูในลีกฤดูกาลนี้ 3 นัด แต่พวกเขาก็มีสถิติยิงประตูได้เร็วที่สุดในลีกฤดูกาลนี้คือ เจมส์ บีทตี้ ยิงได้ในวินาทีที่ 12 เมื่อครั้งที่พบกับ เชลซี ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่ 28 สิงหาคม 2004
ผลการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 เซาแธมป์ตัน
31 มกราคม 2004
ผู้ตัดสิน : เกรแฮม บาร์เบอร์
ผู้ทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ซาฮา 18, สโคลส์ 37, ฟาน นิสเตลรอย 61
ผู้ทำประตูให้ เซาแธมป์ตัน : ฟิลลิปส์ 38, 53
สถิติการพบกันทั้งหมด
– ในลีกอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 44 ครั้ง เซาแธมป์ตัน ชนะ 23 ครั้ง เสมอ 21 ครั้ง
– ในพรีเมียร์ชิพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ครั้ง เซาแธมป์ตัน ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง
สถิติการพบกันในถิ่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
– ในลีกอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 29 ครั้ง เซาแธมป์ตัน ชนะ 7 ครั้ง เสมอ 8 ครั้ง
– ในพรีเมียร์ชิพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 11 ครั้ง เซาแธมป์ตัน ชนะ 0 ครั้ง เสมอ ครั้ง
Opal